"The Matrix Resurrections แก่ความรักที่ผู้ชมรอคอยมาถึง 19 ปี
แบบอย่างหนัง ดูท่า The ตัวอย่างหนัง Matrix นั้นจะเปลี่ยนเป็นหนัง “เชย” สำหรับเหล่าวัยรุ่นสมัยใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับหนังมาร์เวลเสียแล้ว รีวิวหนัง netflix 2021 วัดได้อย่างเห็นได้ชัดจากความหนาแน่นของผู้ชมในโรงภาพยนตร์อาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมาและก็การกล่าวถึงตัวหนังทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่มองซึมเซาและก็ดูจะถูกสไปเดอร์แมนกลบมิด
The Matrix สามภาคแรก รีวิวหนัง เป็นราวกับบทบันทึกสำคัญในช่วงต้นปี 2000 ที่นอกเหนือจากที่จะพรีเซนเทชั่นงานเคล็ดลับด้านภาพอันแสนน่าระทึกใจแล้ว มันยังรวมปรัชญาที่ตั้งปริศนาว่า เรื่องจริงเป็นอย่างไร บางที่สิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นจริงบางทีก็อาจจะเป็นแค่เพียงโลกสมมติ (เหมือนกับใน The Matrix) เจตนารมณ์เสรีกล่าวถึงอิสระในการเลือกปฏิบัติสิ่งที่มนุษย์อยากได้นั้นมีอยู่ใช่หรือไม่
จุดแข็งของหนังไตรภาค อยู่ตรงที่สไตล์การควบคุมคิวบู๊ที่สดใหม่ในเวลานั้น สำหรับเพื่อการนำศิลปะการต่อสู้แบบกังฟู มาใช้กับเทคนิคการเคลื่อนกล้องถ่ายรูปแบบ Bullet Time Scene ที่กล้องจะเคลื่อนแบบสไลว์โมชั่นไปบริเวณวัตถุที่ถูกจับภาพ จนถึงแปลงเป็นสิ่งใหม่อันน่าตื่นตะลึง ยังไม่รวมถึงการใช้โทนสีเขียวๆอันเป็นโลกเลียนแบบของเดอะเมทริกซ์ ส่วนโลกมนุษย์แห่งข้อเท็จจริงที่ตกอยู่ภายใต้การคุกคามของจักรกลนั้นเป็นโทนสีมัวซัวให้ความรู้สึกเศร้า
การมาถึงของ The Matrix Resurrections แน่นอนว่าผู้ชมที่เป็นฐานของหนังภาคนี้คือจำเป็นต้องดูหนัง 3 ภาคแรกมาก่อน ด้วยเหตุดังกล่าว “ภาพจำ” ของตรีภาคเมื่อ 19 ปีกลายที่ยังติดตรึงเอาไว้ภายในความจำ ยังคงเป็นสิ่งที่ผู้ชมมองหาในหนังภาคปัจจุบัน ซึ่งก็จำต้องเห็นด้วยว่าหนังภาคนี้ไม่ได้สร้าง “นวัตกรรมใหม่” อะไรก็ตามมากยิ่งกว่าเดิม นอกเสียจากจะเป็นการย้อนกลับไปเสียดสีหนังตรีภาคพร้อมกับเล่าใจความสำคัญด้ามจับต้องได้รวมทั้งมีความ “ส่วนตัว” เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั่นเป็นความรักระหว่างนีโอแล้วก็ทรินิตี้
ด้วยความยาวกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งของหนัง ทำให้ขั้นแรกหนังหลอกล่อผู้ชมด้วยการทำให้พวกเราเห็นโลกเดอะเมทริกซ์ในยุคสมัยใหม่ โทนสีภาพไม่เป็นสีเขียวตุ่นๆแบบในสามภาคชุดเดิม มีการเปิดตัวละครใหม่อย่างบั๊กส์ (เจสสิก้า เฮนวิก) ที่มาพร้อมด้วยสีผมฟ้าสดสะดุดตา ผู้กำลังหนีตายจากการไล่ล่าของเหล่าเอเจนท์ คุณกำลังพบว่าเดอะเมทริกซ์กำลังจะมีการเขียนภาพซ้ำอะไรบางอย่างในระบบของตนขึ้นมา
"